ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย Bacterial Vaginosis คือ การอักเสบของช่องคลอด อันเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด โดยแบคทีเรียชนิดแลคโตบาซิลไล (Latobacilli) มีปริมาณลดลง จำนวนแบคทีเรียที่แอนแอโรบส์ (Anaerobes) มีมากขึ้น ช่องคลอดจึงเกิดการอักเสบในที่สุด ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย แม้ว่าในผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน
สาเหตุช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
พฤติกรรมต่างๆที่ทำให้ช่องคลอดเกิดความไม่สมดุลกัน จนเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่
- การสวนล้างช่องคลอด
- การใส่ห่วงคุมกำเนิด
- การตั้งครรภ์
- การมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนครั้งละหลายคน
- การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
- ไม่ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ
อาการช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- อาการตกขาวผิดปกติ เช่น เป็นสีส้ม สีเขียว เป็นฟอง
- มีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ร่วมกับอาการตกขาว อาจมีอาการไข้ขึ้นร่วมด้วย
- ระคายเคืองบริเวณช่องคลอด
- รู้สึกว่ามีอาการแสบร้อนในขณะปัสสาวะ
- ใช้ยารักษาช่องคลอดติดเชื้อรา แต่รักษาไม่หาย

การวินิจฉัยช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
ในขั้นต้นแพทย์จะทำการซักประวัติผู้ป่วย หลังจากนั้นก็จะทำการตรวจดังนี้
การตรวจภายในช่องคลอด
- แพทย์จะสังเกตบริเวณช่องคลอด ถึงการตกขาว และกลิ่นไม่พึงประสงค์ และใช้เครื่องมือ ตรวจดูภายในช่องคลอด เพื่อตรวจดูอวัยวะบริเวณอุ้งเชิงกราน และการติดเชื้อภายใน
การตรวจการตกขาว
- แพทย์จะนำตัวอย่างตกขาวของผู้ป่วย มาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
การตรวจสอบความเป็นกรดในช่องคลอดด้วยการวัดค่า pH
- หากระดับค่า pH ของผู้ป่วยอยู่ที่ 4.5 ขึ้นไป มีความเสี่ยงในการที่ช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรีย
ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย กับเชื้อราในช่องคลอด แตกต่าง และเหมือนกันอย่างไร
- การติดเชื้อราในช่องคลอดนั้น จะมีอาการระคายเคือง แสบ คัน บริเวณช่องคลอด มีการตกขาวออกเป็นสีขาวข้น แต่ไม่มีกลิ่น ระดับค่า pH ของผู้ป่วยต่ำกว่า 4.5 สามารถรักษาได้ด้วยยาสอดช่องคลอด
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย จะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ร่วมกับการตกขาว ผู้ป่วยจะมีค่า pH อยู่ที่ 4.5 ขึ้นไป
- ภาวะทั้งสองนี้เหมือนกันตรงที่พฤติกรรมที่เป็นสาเหตุให้เกิด คือการสวนล้างช่องคลอดด้วยกันทั้งคู่
การรักษาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
การรับประทานยาปฏิชีวนะ
- ยาเมโทรนิดาโซล เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาการปวดท้อง ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างใช้ยานี้
- ยาคลินดามัยซิน
- ยาทินิดาโซล งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างใช้ยานี้
ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการใช้ยายาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง เพราะอาจจะเกิดการดื้อยาได้ ทั้งนี้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรรักษาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียด้วยการใช้ยายาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ เพราะอาจส่งผลข้างเคียงเกิดภาวะแทรกซ้อนในครรภ์ ควรพบสูตินรีเวช เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีอื่น
การป้องกันช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- หลีกเลี่ยงการล้างช่องคลอด หรือการใช้น้ำยาล้างทำความสะอาด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยตลอดเวลา รวมทั้งการสวมชุดชั้นในที่รัดตึง
- ทำความสะอาดร่างกาย รวมทั้งเครื่องแต่งกาย เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้นโดยเฉพาะบริเวณช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หากมีความจำเป็นควรใช้ถุงยางอนามัย
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือมีอาการตกขาว ควรมาพบแพทย์ และไม่ควรใช้ยามารักษาด้วยตนเอง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่หากมีอาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย