ขลิบหนังหุ้มปลาย ข้อดีข้อเสีย วิธีการขลิบ ราคา วิธีการเตรียมตัว วิธีการดูแลตัวเองหลังการตรวจและหลังผ่าตัด

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ มีข้อดีมากกว่าที่คุณคิด ไม่อยากพลาด อ่านเลย

เรื่องควรรู้

  • การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการตัดหนังหุ้มปลายองคชาตออก โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เปิดทำความสะอาดได้ง่าย และช่วยลดการติดเชื้อได้ดีกว่าด้วย
  • การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายสามารถทำได้ตั้งเด็กทารกอายุ 2-3 สัปดาห์ ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่การขลิบในวัยทารกจะได้เปรียบกว่า เพราะไม่ต้องอายหมอ แผลหายง่าย ไม่ต้องวางยาสลบ ไม่ทำให้เด็กรู้สึกกลัว
  • การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายสามารถเกิดผลแทรกซ้อนได้ไม่ต่างจากการผ่าตัดปกติทั่วไป
  • การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายอาจดูน่ากลัว แต่ก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เช่น ลดความเสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศ ทำให้ทำความสะอาดอวัยวะเพศง่าย ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • ก่อนการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย คุณควรเข้าตรวจสุขภาพกับแพทย์ และแจ้งโรคประจำตัว รวมถึงยาที่รับประทานให้แพทย์ทราบเสียก่อน (ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพชายทุกวัยได้ที่นี่)

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นอีกสัญลักษณ์ที่แสดงการเป็นชายเต็มตัวในหลายๆ วัฒนธรรม แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศนั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป และเป็นข้อมูลที่ทุกคนควรรู้เป็นความรู้เบื้องต้นไว้

ความหมายของการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ 

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย คือ การตัดหนังหุ้มปลายขององคชาตออก โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อสามารถเปิดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วยลดการติดเชื้อ และมีสุขอนามัยที่ดี

ข้อดี และข้อเสียของการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ

ข้อดีของการขลิบในวัยทารก

  • ไม่เกิดความจำฝังใจ เพราะการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ในวัยทารกจะไม่ทำให้เกิดการจำความรู้สึกเจ็บ หรือกลัวจนเป็นความฝังใจ อีกทั้งแผลจะหายเร็วกว่าในเด็กโต หรือผู้ใหญ่ เนื่องจากดูแลแผลง่ายนั่นเอง
  • ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด หรือวางยาสลบ เสียค่าใช้จ่ายน้อย และไม่ต้องรู้สึกอายหมอ

ข้อดีหลังการขลิบในวัยผู้ใหญ่

  • ลดความเสี่ยงการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคซิฟิลิส กามโรค หรือโรคเอดส์ แต่ไม่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 100% เนื่องจากการป้องกันโรคที่เห็นผลที่สุด คือ การใช้ถุงยางอนามัยเท่านั้น
  • ลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคในทางเดินปัสสาวะ ผู้ชายที่ไม่ได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายจะมีความเสี่ยงการติดเชื้อได้มากกว่า เพราะเชื้อโรคนั้นมีการสะสมที่หนังหุ้มปลาย ดังนั้นผู้ชายที่ขลิบหนังหุ้มปลายแล้วจะลดการติดเชื้อที่เข้าสู่ไตได้
  • ทำความสะอาดง่าย สามารถทำความสะอาดปลายองคชาตได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รับการขลิบ
  • ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศ เมื่อหนังหุ้มปลายถูกขลิบแล้ว จะทำให้ไม่เป็นแหล่งเก็บเชื้อโรคต่างๆ จึงช่วยลดความสกปรก และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่อวัยวะเพศได้
  • ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ HPV ในผู้หญิง เพราะเชื้อ HPV เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
  • แก้ปัญหาปลายอวัยวะเพศตีบ (Phimosis) มักเกิดกับผู้ชายที่ไม่ได้มีการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เนื่องจากหนังปลายอวัยวะเพศจะหุ้มองคชาตมิดจนไม่สามารถเปิดได้ และทำให้หนังหุ้มปลายรูดขึ้นลงไม่ได้ ทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ อีกทั้งการหลั่งอสุจิก็จะทำได้ไม่ดี
  • ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะเป็นการกำจัดแหล่งสะสมสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น เหงื่อ คราบปัสสาวะ หรือขี้ไคล

 ข้อเสียหลังการขลิบในวัยผู้ใหญ่

  • เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน การขลิบอวัยวะเพศเป็นการผ่าตัดที่อาจเกิดผลแทรกซ้อนเหมือนการผ่าตัดตามปกติทั่วไป
  • ลดความไวในการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ เพราะหลังการขลิบแล้ว ปลายอวัยวะเพศจะสามารถสัมผัสกับสิ่งภายนอกได้ตลอดเวลา เช่น ผ้าเช็ดตัว กางเกง เพราะไม่มีหนังหุ้มปลายปิด ทำให้ความไวต่อการรู้สึกของส่วนหัวอวัยวะเพศลดลง หลังจากขลิบไปแล้ว 2-3 เดือน
  • ผิวหนังส่วนหัวของอวัยวะเพศแห้ง เพราะไม่มีผิวหนังปกคลุม ปกติแล้วหัวของอวัยวะเพศชาย จะเป็นเนื้อเยื่ออ่อนที่มีความอ่อนนุ่ม หรือมีสีอ่อนเหมือนเนื้อเยื่อในช่องปาก แต่หลังการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ จะเปลี่ยนไปเหมือนสีของผิวหนังภายนอก
  • การม้วนตัวของหนังหุ้มปลายเปลี่ยนไปขณะมีเพศสัมพันธ์ ก่อนการขลิบ หนังหุ้มปลายจะม้วนตัวขึ้นลงได้ในขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่หลังการขลิบหนังหุ้มปลายไปแล้ว จะไม่สามารถทำได้ จึงทำให้ปลายอวัยวะเพศเสียดสีกับช่องคลอดโดยตรง

วิธีการขริบหนังหุ้มปลาย

1.ขริบแบบดั้งเดิม

แพทย์จะฉีดยาชา แล้วใช้อุปกรณ์ผ่าตัดแบบปกติ คือกรรไกร หรือมีด รวมทั้งเครื่องจี้ไฟฟ้าเปิดหนังหุ้มปลายออก และทำการเย็บติดกัน ใช้เวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บเนื่องจากใช้เวลานาน และใช้เวลาพักฟื้นนาน

2.ขริบไร้เลือด (Stapler Circumcision)

เป็นเทคนิคการขริบแบบใหม่ที่ทำได้ง่าย มีความปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงในปัจจุบัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีดยาชาที่องคชาต (ฉีดเข้าผิวหนัง) แล้วใช้เครื่องมือตัดอัตโนมัติ (Disposable Circular Stapler) ซึ่งสามารถทำการตัด เย็บ และห้ามเลือดได้ในเวลาเดียวกัน

การผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะดีกว่าแบบดั้งเดิมคือ ใช้เวลาผ่าตัดที่เร็ว 15-20 นาที ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ไม่เสียเลือด รอยการผ่าตัดสวยงามเรียบร้อย ลดอาการเจ็บได้มาก และสามารถทำแผลได้ง่ายจนผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวจากแผลได้เร็วใน 1 สัปดาห์

ควรขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเมื่ออายุเท่าไร

สามารถทำได้ตั้งแต่วัยทารกแรกเกิด โดยเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ ขณะทารกมีอายุ 2 – 3 สัปดาห์ หรือ 10 วัน หลังคลอด  แต่หากเกิดปัญหาตอนเด็กโตหรือ เป็นผู้ใหญ่ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่อาจจะมีความยุ่งยากกว่าเท่านั้นเอง

วิธีการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ

  • กรณีเด็กโต และผู้ใหญ่
    แพทย์โกนขนที่อวัยวะเพศก่อน หลังจากนั้นจะฉีดยาชาที่โคนอวัยวะเพศเพื่อไม่ให้เกิดความเจ็บปวด และทำการตัดหนังหุ้มปลายส่วนเกินตามที่ต้องการออก ตามด้วยการหยุดเลือด และเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ซึ่งอาจมีอันตราย หรืออาการแทรกซ้อนได้เหมือนการผ่าตัดทั่วไป
  • กรณีทารกแรกเกิด
    ทำการขลิบโดยใช้เครื่องมือครอบปลายอวัยวะเพศ แล้วตัดหนังออกแบบไม่ต้องเย็บแผล

ปกติแล้ว แผลขลิบอวัยวะเพศในเด็กเล็กจะหายภายใน 1 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่จะหายภายใน 3 สัปดาห์ โดยหลังการขลิบเรียบร้อยแล้ว เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ จะมีอาการปวดบ้างตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถใช้ยาลดอาการปวดให้บรรเทาลงจนสามารถทนได้

ราคาการขลิบอวัยวะเพศ

ขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ที่ต้องการขลิบอวัยวะเพศ หากทำยาก และอยู่ในวัยผู้ใหญ่ก็จะมีราคาแพงกว่าการขลิบที่อยู่ในวัยทารก

วิธีเตรียมตัวก่อนการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ

  • ต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย รวมทั้งกำหนดวันขลิบ
  • การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ จะต้องหยุดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งหยุดงานหลังทำประมาณ 3-7 วัน และก่อนการขลิบไม่ต้องงดอาหาร และน้ำ แต่ถ้าเป็นการขลิบแบบต้องวางยาสลบก็จำเป็นต้องงดอาหาร และน้ำร่วมด้วย
  • หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานหรือโรคความดันโลหิตสูง จะต้องแจ้งแพทย์ก่อนการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
  • งดรับประทานยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดก่อนขลิบ 2 สัปดาห์
  • ควรเตรียมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่สวมใส่สบายเพื่อใส่หลังการผ่าตัด
  • เตรียมชุดทำความสะอาดแผล ได้แก่ เบตาดีน น้ำเกลือสำหรับล้างแผล ไม้พันสำลี ผ้าก๊อซ และปลาสเตอร์ปิดแผล

วิธีการดูแลตัวเองหลังขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ

  • หลังการขลิบ หากยังมีเลือดออก ให้ใช้ผ้าก๊อซกดแผลไว้จนกว่าเลือดจะหยุดไหล
  • ต้องล้าง และทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง ด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างแผล แล้วทาเบตาดีน จากนั้นเปลี่ยนผ้าก๊อซแบบชนิดกันผ้าติดแผลปิดทับลงไป
  • ถ้าแผลมีอาการบวมหรือรู้สึกปวด ให้ใช้น้ำเย็นหรือน้ำแข็งห่อผ้าช่วยประคบไว้ และรับประทานยาแก้ปวดก็จะช่วยบรรเทาอาการได้
  • ไม่ควรให้แผลขลิบอวัยวะเพศโดนน้ำเป็นเวลา 2-3 วัน ดังนั้นการอาบน้ำจึงต้องระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ หากจำเป็นต้องโดนน้ำให้รีบเช็ดแห้งโดยเร็วที่สุด
  • ขณะปัสสาวะ ควรระมัดระวังอย่าให้ปัสสาวะเลอะผ้าก๊อซ หากเลอะจะต้องเปลี่ยนผืนใหม่ทันที
  • หลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัว เนื่องจากจะทำให้เกิดความเจ็บปวดมากขึ้น และต้องงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ

วิธีการดูแลผู้ป่วยหลังการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยเพศ

หากผู้ที่รับการขลิบอวัยวะเพศเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ก็จะสามารถดูแลตนเองได้ตามวิธีการดูแลตัวเองหลังขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ แต่ถ้าเป็นเด็กทารกก็ควรปฏิบัติ ดังนี้

  • เมื่อแกะผ้าปิดแผลออกแล้ว ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว จากนั้นแตะเบาๆ เพื่อให้แผ่นแข็งๆ ที่ติดอยู่ให้หลุดออกมา
  • ใช้ผ้าก๊อซชุบปิโตรเลียมเจลห่ออวัยวะเพศไว้ และเปลี่ยนผืนใหม่ในวันถัดไป
  • เมื่อนำผ้าก๊อซออกจะต้องค่อยๆ แกะ และทำให้ชื้น เพื่อที่จะได้แกะออกง่าย และไม่รู้สึกเจ็บ
  • หากมีเลือดออกให้นำผ้าก๊อซที่สะอาด มากดเหนือจุดที่เลือดออกประมาณ 2-3 นาที เลือดก็จะหยุดไหลแล้วทาขี้ผึ้งหรือยาอื่นๆ ตามแพทย์สั่ง

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ นับว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ดังนั้นหากมองผลดีในระยะยาวแล้ว ย่อมดีกว่าการไม่ขลิบเลย เพราะนอกจากจะเป็นผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายต่อทั้งผู้ชาย และผู้หญิงอีกด้วย

ແຊລ໌ບົດຄວາມນີ້

About the Author

You may also like these