รู้จัก โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คืออะไร

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) คือ ภาวะติดเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะเชื้ออีโคไล (Escherichia coli) ในกระเพาะปัสสาวะและทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานหรือการทำความสะอาดไม่ถูกวิธี เช่น การเช็ดทำความสะอาดจากด้านหลังไปด้านหน้า จึงทำให้ติดเชื้อ นอกจากนี้โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ยังเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกด้วย อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากท่อปัสสาวะที่สั้นกว่า พบในช่วงอายุ 20-50 ปี โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มักติดการนั่งนาน ๆ ติดการกลั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำน้อย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการเป็นอย่างไร

อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่มักพบได้มีดังนี้
- ปัสสาวะแสบขัด
- ปัสสาวะบ่อย กระปริบกะปรอย
- รู้สึกปัสสาวะไม่สุด
- ปวดท้องน้อยตอนปัสสาวะ
- ปัสสาวะไม่ออก ต้องเบ่ง
- มีเลือดออกมาพร้อมปัสสาวะ
- ปัสสาวะขุ่น
- ปัสสาวะตอนกลางคืน 2 ครั้งขึ้นไป
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ สาเหตุเกิดจากอะไร
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุที่พบได้ เช่น
- ติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะโดยเฉพาะเชื้ออีโคไล (Escherichia coli)
- ดื่มน้ำน้อย
- กลั้นปัสสาวะ
- การดูแลทำควาสะอาดหลังเสร็จธุระแบบผิดวิธี เช่น การเช็ดจากด้านหลังไปด้านหน้า ทำให้ติดเชื้อจากทางช่องคลอดหรือทวารหนัก
- โรคเบาหวาน
- การมีเพศสัมพันธ์
- สตรีวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนเนื่องจากเมื่อฮอร์โมนลดลงจะทำให้เยื่อบุช่องคลอดและเยื่อบุท่อปัสสาวะบางและขาดความชุ่มชื้น ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- การรับประทานยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเสี่ยงเกิดโรคอะไรบ้าง
นอกจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบจะเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้วยังอาจก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- ติดเชื้อที่ไต
- นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- กระเพาะปัสสาวะไวเกินปกติ
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบอื่น ๆ ของร่างกาย
วิธีการวินิจฉัยกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ขั้นตอนวินิจฉัยที่ใช้ในการประเมินอาการคือแพทย์จะเริ่มจากการซักถามประวัติ โรคประจำตัวผู้ป่วยเบื้องต้น จากนั้นแพทย์จะเก็บตัวอย่างปัสสาวะ ตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจว่ามีเซลล์เม็ดเลือดขาว และแบคทีเรีย ปนในปัสสาวะหรือไม่ นอกจากนี้อาจมีการอัลตราซาวด์ หรือส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะเพิ่มเติมด้วย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รักษาอย่างไร

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กินอะไรหาย? สำหรับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ วิธีรักษาโดยหลักแล้วแพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้หากผู้ป่วยมีอาการปวดท้องร่วมด้วยแพทย์อาจจ่ายยาแก้ปวดร่วมด้วย ทั้งนี้ไม่ควรซื้อยารักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบและยาขับปัสสาวะมารับประทานเองโดยเด็ดขาด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ดูแลตัวเองอย่างไรฃ

เมื่อมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือแม้แต่ยังไม่มีอาการก็ตาม ควรดูแลตัวเองหรือป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซึ่งจะทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยวิธีการดังนี้
- พยายามไม่กลั้นปัสสาวะ
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- ทำความสะอาดจุดซ้อนเร้นอย่างถูกต้อง โดยเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลัง
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
- ล้างทำความสะอาดจุดซ้อนเร่งหลังมีเพศสัมพันธ์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
1. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หายเองได้ไหม?
การรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยตัวเองนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้อาการหายขาดได้ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาและวิธีการรักษาที่ถูกต้องจึงจะทำให้อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบดีขึ้น
2. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กินยาอะไร?
กระเพาะปัสสาวะอักเสบการรักษาคือการรับประทานปฏิชีวนะซึ่งจำเป็นต้องจ่ายโดยแพทย์ ผู้ป่วยไม่ควรหาซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจได้รับยาที่ไม่ตรงกับอาการและเสี่ยงต่อการดื้อยาหรือาจเกิดอันตรายได้ในกรณีที่แพ้ยา
3. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กี่วันหาย?
สำหรับการทานยาปฏิชีวนะเพื่อรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะจ่ายยาเพื่อรับประทาน 3-5 วัน หรือในบางรายอาจรับประทาน 7-10 วัน แล้วแต่อาการในแต่ละราย
สรุปกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ต้องปรึกษาแพทย์
ปรึกษาหมอออนไลน์ พยาบาล หรือปรึกษาเภสัชกรที่แอป BeDee ได้ทุกวัน พร้อมให้คำปรึกษาและจัดส่งสินค้าถึงมือ เลือกปรึกษาตาม
☎️ ปรึกษาสุขภาพ : 021 752 666
📍 ที่ตั้ง : บ้านเขาย้อย อำเภอศรีสัตตนาค
นครหลวงเวียงจันทน์ (ใกล้วัดศรีเมือง)
💡 นัดหมายออนไลน์ ลงทะเบียนฟรี รับสิทธิพิเศษในการดูแล