เช็คอาการหนองในเทียมทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ต่างจากหนองในแท้อย่างไร ?

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เป็นปัญหาสุขภาพที่อันตราย เมื่อมีอาการระคายเคืองท่อปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัดมักเป็นจุดเริ่มต้นที่หลายคนสงสัยว่าเป็นหนองในหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังมีออีกหนึ่งโรคที่คล้ายคลึงกับหนองในเป็นอย่างมาก นั่นคือโรคหนองในเทียม โรคนี้อาการมักไม่รุนแรงจึงสังเกตยาก แต่สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้หากละเลยการรักษา ดังนั้นบทความนี้โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาจึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของการติดเชื้อแบคทีเรีย และทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่สำคัญที่อาจนำไปสู่ปัญหาการเจริญพันธุ์เช่นภาวะมีบุตรยาก

หนองใน หนองในแท้ หรือ Gonorrhea เป็นการอักเสบในท่อปัสสาวะอย่างหนึ่ง มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียนชื่อ Neisseria gonorrhoeae และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ (STIs) ซึ่งน่าจะเป็นชื่อที่คุ้นหูมากที่สุด ในขณะที่หนองในเทียม หรือ Non-gonococcal urethritis (NGU) เป็นการอักเสบในท่อปัสสาวะ และเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เช่นเดียวกันกับหนองใน มีอาการคล้ายคลึงกัน แต่หนองในเทียมมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Neisseria gonorrhoeae ที่เป็นสาเหตุหลักของหนองใน

ซึ่งชนิดของเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยที่เป็นสาเหตุของโรคหนองในเทียมคือแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis และอาจจะพบได้จากเชื้ออื่นๆ เช่นเดียวกัน เช่น Ureaplasma parvum, Mycoplasma genitalium, Trichomonas vaginalis หรือ เชื้อไวรัส เช่น herpes simplex virus เป็นต้น

หากคู่นอนเป็นหนองในเทียมการส่งต่อเชื้อคลาไมเดีย (Chlamydia trachomatis) จากคนสู่คนเป็นการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) โดยสามารถติดต่อจากของเหลวในช่องคลอดและอสุจิที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถส่งต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์แทบทุกรูปแบบ ทั้งทางช่องคลอด ทางทวารหนัก ทางปาก นอกจากนี้หากมารดาที่ตั้งครรภ์มีเชื้อคลาไมเดียทารกมีโอกาสสัมผัสเชื้อคลาไมเดียขณะคลอดได้

ช่วงแรก ๆ ของการติดเชื้อคลาไมเดียมักไม่แสดงอาการชัดเจน หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย จึงอาจมองข้ามได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตามอาการเมื่อติดเชื้อคลาไมเดียจะส่งผลต่ออวัยวะในระบบสืบพันธุ์ทำให้อาการในผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นชาย (AMAB) และหญิง (AFAB) ต่างกันเล็กน้อยสำหรับดังนี้

ผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นหญิงเมื่อติดเชื้อแบคทีเรียคลาไมเดียหรือเป็นหนองในเทียม จะมีอาการคล้ายโรคปากมดลูกอักเสบ หรือคล้ายอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) คือ

สำหรับอาการในผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นชายเมื่อเป็นหนองในเทียมจากการติดเชื้อคลาไมเดีย ซึ่งมักติดเชื้อในท่อปัสสาวะ ทำให้มีอาการคล้ายกับโรคท่อปัสสาวะอักเสบ เช่น

หนองในเทียมจากการติดเชื้อคลาไมเดียสามารถติดเชื้อที่บริเวณ ทวารหนัก ลำคอ และดวงตาได้ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางเพศที่ทำ

หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นหนองในเทียมที่มีสาเหตุจากเชื้อ Chlamydia trachomatis การรักษาจะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ โดยส่วนอาการมักจะดีขึ้นหลังได้รับยาภายใน 3-4 วัน แต่ในช่วงแรก ๆ ยังมีโอกาสการแพร่เชื้อได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในช่วงที่รักษาแพทย์จึงมักให้งดมีเพศสัมพันธ์หรือกิจกรรมทางเพศต่าง ๆ จนกว่าอาการจะหายดี นอกจากนี้หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นหนองในเทียม คู่นอนตลอดช่วง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาก็ควรได้รับการตรวจคัดกรองแม้ว่าจะยังไม่มีอาการ

หนองในเทียมที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งกระทบระยะยาวต่ออวัยวะในระบบสืบพันธุ์ได้ เช่น

การเลี่ยงมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อคลาไมเดียเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด แต่โรคหนองในเทียมเป็นโรคที่อาการไม่รุนแรงทำให้ยากต่อการสังเกตทั้งคู่นอนและตัวเราเอง ฉะนั้นการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอยู่เสมอไม่ใช่เพียงแค่หนองในเทียมอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยนั้นสามารถทำได้ด้วยวิธีดังนี้

หนองในเทียมแม้จะไม่ได้มีอาการรุนแรง แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ มันจะนำไปสู่ปัญหาของอวัยวะในระบบสืบพันธ์ุและปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ซึ่งอาจรักษายากกว่าหนองในเทียม การสังเกตตัวเองตั้งแต่แรกด้วยการสำรวจอาการที่กล่าวมาในบทความนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าสู่การรักษาได้เร็วที่สุด

ปรึกษาสุขภาพ : 021 752 666

 ที่ตั้ง : บ้านเขาย้อย อำเภอศรีสัตตนาค

นครหลวงเวียงจันทน์ (ใกล้วัดศรีเมือง)

 นัดหมายออนไลน์ ลงทะเบียนฟรี รับสิทธิพิเศษในการดูแล

ແຊລ໌ບົດຄວາມນີ້

About the Author

You may also like these