อาการปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่สุด ไม่พุ่ง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุโดยเฉพาะในผู้ชาย แต่ในผู้หญิงก็พบได้ด้วยเช่นกัน อาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ทั้งยังจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว การเข้ารับการตรวจหาสาเหตุและรีบรักษาแต่เนิ่นๆ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นอย่ามัวแต่เขินอาย เพราะมีวิธีการตรวจรักษามากมายที่คุณเลือกได้ตามคำแนะนำของแพทย์
ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ ถือเป็นลักษณะของการปัสสาวะลำบาก
การปัสสาวะลำบากมีอาการสำคัญหลายอย่าง การที่ผู้ป่วยเข้าใจอาการและสามารถบอกแพทย์ได้อย่างชัดเจน จะช่วยให้แพทย์ทำการตรวจประเมินและวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำตรงจุด ทั้งยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเลือกวิธีตรวจ ซึ่งอาการหลักๆ ที่พบบ่อยมีดังนี้
- ต้องเบ่งปัสสาวะ เพื่อให้ปัสสาวะไหลออกได้ (hesitancy)
- ปัสสาวะลำเล็กลง ปัสสาวะไม่พุ่ง ออกเป็นหยดๆ (poor stream)
- ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อช่วยให้ปัสสาวะไหลออก (Straining)
- ปัสสาวะไหลและหยุดเป็นช่วงๆ (intermittent stream)
- รู้สึกปัสสาวะไม่สุด เหมือนยังมีน้ำปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะอยู่ (incomplete emptying)
อาการปัสสาวะลำบากเกิดจากสาเหตุใด ?

อันดับแรกต้องเข้าใจระบบการขับถ่ายปัสสาวะก่อน ว่ามีการทำงานร่วมกันอย่างไรใน 4 ส่วนสำคัญ ซึ่งหากส่วนใดส่วนหนึ่งทำงานผิดปกติไปก็จะทำให้เกิดอาการปัสสาวะลำบากได้ ทั้งนี้ให้ลองนึกภาพโดยเปรียบเทียบการปัสสาวะที่เหมือนกับการไหลของน้ำจากปั๊มน้ำสู่ปลายท่อ ซึ่งแต่ละส่วนจะมีหน้าที่ดังนี้
- กระเพาะปัสสาวะ เปรียบเสมือนปั๊มน้ำ ต้องสามารถบีบตัวได้แรงและนานพอที่จะขับน้ำปัสสาวะออกมาได้หมด
- กล้ามเนื้อหูรูด เปรียบเสมือนวาล์วน้ำ ต้องคลายตัวเต็มที่ขณะมีการปัสสาวะ
- ท่อปัสสาวะ เปรียบเสมือนท่อน้ำ ต้องมีความยืดหยุ่นและขนาดใหญ่พอ ไม่มีสิ่งอุดตัน กีดขวาง หรือตีบแคบ
- ระบบประสาท ต้องสามารถทำงานสั่งการและควบคุมได้เป็นปกติ
อาการปัสสาวะลำบากเกิดจากโรคอะไรได้บ้าง ?
หลายคนเมื่อมีอาการปัสสาวะลำบาก ก็อาจมีความกังวลว่าจะเป็นโรคร้าย ซึ่งจริงๆ แล้วมีโรคหรือภาวะมากมายที่ส่งผลให้มีอาการปัสสาวะลำบากหรือผิดปกติไปจากเดิม โดยโรคที่พบบ่อยได้แก่
- โรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia) ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ชายสูงอายุ ซึ่งเมื่อต่อมลูกหมากมาเบียดหรือกดทับท่อปัสสาวะจะทำให้ปัสสาวะลำบาก ไม่พุ่ง หรือปัสสาวะบ่อยขึ้นได้
- ท่อปัสสาวะตีบ (Urethral Stricture) มักเกิดจากท่อปัสสาวะได้รับบาดเจ็บหรือมีพังผืด ทำให้ปัสสาวะไหลอ่อนลง
- นิ่วในทางเดินปัสสาวะ (Urolithiasis) ตกลงมาอุดในท่อปัสสาวะ เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในไต ทำให้เกิดอาการปวดและปัสสาวะลำบาก
- ก้อนเนื้องอก (Tumor) ของท่อปัสสาวะหรืออวัยวะข้างเคียง เช่น มดลูก ช่องคลอด
- การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI) มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ปวดแสบและปัสสาวะบ่อย หรือเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เช่น หนองในแท้และหนองในเทียม มีการอักเสบในท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบากและมีสารคัดหลั่งออกจากอวัยวะเพศ
- อาการหลังผ่าตัดแก้ไขปัสสาวะเล็ดราด เป็นภาวะที่เกิดจากการรัดท่อปัสสาวะ (Urethral Sling) แน่นเกินไป
- การทำงานของระบบประสาทผิดปกติ (Neurogenic Bladder) เกิดจากโรคหรือการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ เช่น โรคเบาหวาน เริมที่อวัยวะเพศ หรือโรคและการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังและไขสันหลัง
- การใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อระบบประสาท เช่น ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines), ยาลดอาการคัดจมูก (Decongestant), ยากล่อมประสาท (Sedatives), หรือยาที่มีผลต่อระบบประสาทอื่นๆ
- ภาวะอื่นๆ เช่น ความเครียด ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าห้องน้ำรวม ห้องน้ำสาธารณะ หรือมีคนอื่นๆ อยู่ด้วย
วิธีตรวจวินิจฉัยเมื่อมีอาการปัสสาวะลำบาก

สำหรับการตรวจวินิจฉัยนั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกายซึ่งเริ่มจากการตรวจภาวะทั่วไปของผู้ป่วย ซักถามลักษณะอาการ ประวัติการติดเชื้อ การใช้ยาและโรคประจำตัว รวมถึงตรวจระบบประสาทการทำงานของทางเดินปัสสาวะเบื้องต้น ร่วมกับการคลำกระเพาะปัสสาวะเพื่อพิจารณาว่ามีขนาดปกติหรือไม่ ทั้งนี้
- ในผู้ป่วยชาย : แพทย์จะทำการตรวจต่อมลูกหมาก กล้ามเนื้อหูรูด (ตรวจทางทวารหนักด้วยนิ้ว) และอวัยวะเพศเพื่อดูว่ามีก้อนเนื้องอก หรือคลำได้ร่องรอยของอาการท่อปัสสาวะตีบหรือไม่
- ในผู้ป่วยหญิง : แพทย์จะทำการตรวจอวัยวะเพศภายนอก เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้องอกหรือท่อปัสสาวะตีบหรือไม่ ร่วมกับปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจภายในและประเมินภาวะมดลูกหย่อน
- นอกจากนี้ ยังมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น
- ตรวจปัสสาวะในห้องปฏิบัติการ เพื่อค้นหาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เม็ดเลือด ระดับโปรตีนหรือน้ำตาลที่สูงซึ่งอาจบ่งชี้ถึงโรคไต หรือมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI)
- อัลตราซาวด์ระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary System Ultrasound) เพื่อค้นหาว่ามีนิ่วหรือก้อนเนื้องอกต่างๆ ในทางเดินปัสสาวะหรือไม่
- ตรวจวัดอัตราการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry) โดยให้ผู้ป่วยปัสสาวะลงบนเครื่องตรวจ เพื่อทำการวัดความแรงของน้ำปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยในการวินิจฉัยและบ่งชี้ความรุนแรงของการได้
- การส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ (Cystoscopy) ในกรณีที่สงสัยภาวะนิ่วหรือเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ
ภาวะปัสสาวะลำบากที่พบในผู้ป่วยชายส่วนใหญ่มักเกิดจากต่อมลูกหมากโต ส่วนในผู้หญิงมักเกิดจากภาวะมดลูกหย่อนหรือท่อปัสสาวะตีบ หากคุณมีอาการปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่สุด ไม่พุ่ง ปัสสาวะบ่อย รู้สึกยังปวดปัสสาวะหลังปัสสาวะเสร็จ หรือมีอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรรีบปรึกษาแพทย์ ซึ่งการตรวจวินิจฉัยนั้นไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บ และมีวิธีการตรวจที่ค่อนข้างหลากหลายโดยสามารถเลือกและปรับให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายตามความต้องการ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ปรึกษาสุขภาพ : 021 752 666
ที่ตั้ง : บ้านเขาย้อย อำเภอศรีสัตตนาค
นครหลวงเวียงจันทน์ (ใกล้วัดศรีเมือง)
นัดหมายออนไลน์ ลงทะเบียนฟรี รับสิทธิพิเศษในการดูแล