ปัญหาเลเบีย ยื่น ย้อย ดำคล้ำ ไม่สมมาตรกัน หรือจุดซ้อนเร้นมีปีก มักเป็นสิ่งที่สาว ๆ ไม่กล้าเปิดเผยกันเท่าไหร่ เพราะเขินอาย และขาดความมั่นใจ ทำให้หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดเลเบีย ราคาแพงไหม เหมาะกับใคร มีอันตรายหรือเปล่า ต้องพักฟื้นกี่วันหลังทำ และมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ทำครั้งแรกที่ไหนดี ได้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว เพื่อไขข้อสงสัยที่ยังติดอยู่ในใจ
การทำศัลยกรรมตกแต่ง ตัดเลเบีย คืออะไร ?
การทำศัลยกรรมตกแต่งตัดเลเบีย (Labia) คือ การผ่าตัดสำหรับปรับแต่งรูปทรง และลดขนาดของเลเบีย หรือที่เรียกกันว่า “แคมเล็ก” เนื่องจากปัญหาของผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น เลเบียมีขนาดใหญ่, เลเบียไม่เท่ากัน, เลเบียยื่นย้อยพ้นแคมใหญ่ ส่งผลทำให้สูญเสียความมั่นใจ หรือกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ อย่างไรก็ตามแม้หลายคนคิดว่าเลเบียไม่มีประโยชน์ แต่จริง ๆ แล้วน้องมีหน้าที่ในการป้องกันช่องคลอด คลิตอริส และท่อปัสสาวะของสาว ๆ นั่นเองครับ
ทำไมต้องผ่าตัดตกแต่งเลเบีย มีข้อดีอย่างไร
ทำไมต้องผ่าตัดตกแต่งเลเบีย มีสาว ๆ หลายคนอาจรู้สึกถึงความไม่จำเป็น เพราะปัญหาเลเบียไม่เท่ากัน เลเบียยื่น หรือเลเบียดำคล้ำ เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดได้กับทุกคน แต่ก็มีบางกรณีที่รู้สึกไม่มั่นใจ เขินอายกับคู่รัก และได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การผ่าตัดตกแต่งเลเบียจึงยังมีข้อดีที่หลายคนไม่รู้ดังต่อไปนี้
- ช่วยทำให้โครงส้รางดูอ่อนเยาว์ สวยงาม และดูอนามัย
- สามารถป้องกันอาการระคายเคืองจากปัญหาการเสียดสีเลเบียได้
- ลดอาการเจ็บ หรือรู้สึกไม่สบายตัวระหว่างวันได้จากการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- ช่วยเสริมความมั่นใจขณะมีเพศสัมพันธ์กับคู่รักได้
- ป้องกันโอกาสเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนได้จากปัญหาเลเบียใหญ่ยื่นผิดปปกติ
ใครที่เหมาะสมกับการผ่าตัดตกแต่งเลเบีย
แม้การผ่าตัดตกแต่งเลเบียไม่ได้จำเป็นต้องทำทุกคน เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้เองก็ตาม แต่ก็มีอีกหลายกรณีถ้าปล่อยปัญหาทิ้งไว้นาน ๆ ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้เช่นกัน โดยคนไข้ที่เหมาะกับการเข้ารับการผ่าตัดตกแต่งเลเบียได้แก่
- คนไข้ที่รู้สึกระคายเคือง หรือมีอาการคัน และเป็นแผลบริเวณเลเบีย
- คนไข้ที่ประสบปัญหาการใช้ผ้าอนามัย จากปัญหาเลเบียมีขนาดใหญ่มากเกินไป
- คนไข้ที่รู้สึกไม่สบายตัว หรือเคลื่อนไหวลำบาก เนื่องจากเลเบียมีการเสียดสีให้เจ็บ
- คนไข้ที่บริเวณช่องคลอดมีอาการอักเสบ และติดเชื้อบ่อยครั้ง
- คนไข้ที่เลเบียมีรอยแดง บวม และผิวแห้ง
- คนไข้ที่มีความประสงค์ต้องการผ่าตัดแปลงเพศ
- คนไข้ที่ไม่มีความมั่นใจ วิตกกังวล หรือเครียด จากปัญหาต่าง ๆ ของเลเบีย
การเตรียมตัวก่อนตัดเลเบีย
สำหรับการเตรียมตัวก่อนตัดเลเบีย คนไข้ตำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด โดยมีวิธีการเตรียมก่อนเข้ารับการผ่าตัดดังนี้
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว หรือยาที่ใช้เป็นประจำ เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการและผลข้างเคียงก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ควรเข้ารับการผ่าตัดในช่วงที่หมดประจำเดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและเสียดเลือดเป็นจำนวนมาก
- ควรเตรียมกางเกงในที่หลวม หรือใส่สบาย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสี หรือกดทับแผลผ่าตัด
- ควรลางานอย่างน้อย 2 – 3 วัน เนื่องจากต้องพักฟื้นร่างกายหลังผ่าตัด
- ควรงดการรับประทานอาหารเสริม หรือยาที่มีผลต้านการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ควรดูแลรักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้เรียบร้อย เช่น โกนขน หรือซับทำความสะอาดให้แห้งไม่อับชื้น
- ควรงดการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์
- ควรนอนพักผ่อนให้เพียง ไม่ควรเครียด หรือวิตกกังวลมากจนไป เพราะจะส่งผลทำให้ความดันไม่คงที
การดูแลตัวเองหลังตัดเลเบีย
วิธีการดูแลตัวเองหลังตัดเลเบียแพทย์จะแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ อย่างชัดเจน แนะนำให้คนไข้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยการดูแลตัวเองมีดังต่อไปนี้
- แนะนำให้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายแบบพอประมาณ เพื่อกระตุ้นให้ระบบหมุนเวียนทำงานปกติ
- แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณแผลผ่าตัดประมาณ 10 – 20 นาที ในช่วงแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
- แนะนำให้ทำความสะอาดแผลทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ และควรซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด งดการใช้ทิชชู่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือมีเศษทิชชู่ติดแผล
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ หรืออยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้แผลผ่าตัดหายได้ช้า
- แนะนำให้รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะหมด หรือแผลหายเป็นปกติ
- งดการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน
- งดการทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบบริเวณแผลผ่าตัด เช่น ออกกำลัง ยกของหนัก หรือมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิท
- แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อฟื้นสภาพร่างกายให้กลับมาสมบูรณ์
- หมั่นสังเกตอาการ หรือความผิดปกติบริเวณแผลผ่าตัด เช่น มีเลือดซึมออกมา หรือรู้สึกเจ็บปวด แนะนำให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที
