โรคฝีต่อมบาร์โธลิน หรือ ต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Cyst) คือ การที่ต่อมบาร์โธลินบวมขึ้นจนกลายเป็นถุงน้ำออกมาบริเวณปากช่องคลอด เนื่องจากเมือกไม่สามารถผ่านออกมาได้ ซึ่งต่อมบาร์โธลิน มีหน้าที่ผลิตสารหล่อลื่น เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อช่องคลอด ในช่วงเวลามีเพศสัมพันธ์
ฝีต่อมบาร์โธลิน และฝีธรรมดาบริเวณอวัยวะเพศหญิง
ฝีต่อมบาร์โธลิน เกิดจากการอักเสบของต่อมบาร์โธลิน ส่วนฝีธรรมดาบริเวณอวัยวะเพศหญิงนั้น เป็นฝีที่เกิดจากสิ่งสกปรก อุดตันรูขุมขน มีอาการอักเสบ เป็นหนอง บริเวณอวัยวะเพศหญิง
สาเหตุของโรคฝีต่อมบาร์โธลิน
- สิ่งสกปรก หมักหมมบริเวณปากช่องคลอด เช่น เหงื่อ เมือก หรือปัสสาวะ
- ติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณอวัยวะเพศ
- สวมชุดชั้นในที่อับชื้น และรัดตึงเกินไป
อาการของโรคฝีต่อมบาร์โธลิน
- ต่อมบาร์โธลิน บวมจนเป็นก้อน จนเกิดอาการปวด
- มีอาการเจ็บระหว่างขา ขณะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
- การอักเสบจะทำให้ฝีแตก มีหนองออกมา เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
การรักษาโรคฝีต่อมบาร์โธลิน
- เมื่อพบถุงน้ำจากการบวมของต่อมบาร์โธลิน และยังไม่มีอาการปวด ให้แช่น้ำอุ่น วันละ2-3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที จะทำให้ถุงน้ำยุบลงได้
- หากมีอาการปวดบวมของถุงน้ำ แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้อักเสบ หากอาการยังไม่ดีขึ้น จะต้องทำการกรีดระบายหนองออก

การป้องกันโรคฝีต่อมบาร์โธลิน
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกวัน เวลาอาบน้ำ และหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยใช้น้ำสะอาดล้างภายนอก บริเวณปากช่องคลอด
- ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยครั้ง ในช่วงของการมีประจำเดือน ไม่ควรปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้นเป็นเวลานาน
- ไม่ควรบีบหนองออกเอง เมื่อพบถุงน้ำจากการบวมของต่อมบาร์โธลิน เพราะ จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- ควรไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการผิดปกติที่อวัยวะเพศ
ไม่ว่าจะเป็นฝีต่อมบาร์โธลิน หรือฝีธรรมดาบริเวณอวัยวะเพศหญิง ไม่ควรที่จะกรีดหนอง และรักษาด้วยตนเอง เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อ การอักเสบลุกลามขึ้น ไม่สามารถทำให้ฝีหายขาดได้