- อาการคันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การนอน ซึ่งการเกาเป็นเพียงวิธีบรรเทาอาการคันได้ระยะหนึ่ง แต่หากเกาอย่างรุนแรงหรือเกาเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว รวมถึงอาจส่งผลต่อบุคลิกภาพได้
- อาการคันยุบยิบตามผิวหนังนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคทางผิวหนัง โรคภูมิแพ้ โรคหรือภาวะเจ็บป่วยบางชนิด โรคทางจิต หรือแม้แต่ภาวะผิวแห้ง แตก เป็นขุย ก็สามารถทำให้เกิดอาการคันได้
- การบรรเทาอาการคันเบื้องต้น สามารถทำได้โดยการประคบเย็น หรือทายาเพื่อบรรเทาอาการคัน หากยังไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการ หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้อง
อาการคันสามารถเกิดขึ้นได้ตามผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย อาจคันเพียงบริเวณเล็กๆ หรือคันทั่วร่างกาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ผิวแห้ง ผิวแตก เป็นขุย มีผื่นแดง ผื่นนูน หรือตุ่ม แผลพุพอง
แม้การเกาจะช่วยบรรเทาอาการคันได้บ้าง แต่หากเกาต่อเนื่องรุนแรงก็อาจส่งผลให้ผิวหนังระคายเคือง เป็นแผล และติดเชื้อได้ การหาสาเหตุจะช่วยแก้ปัญหาอาการ “คัน” ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สาเหตุของอาการคัน
อาการคันตามผิวหนังอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้

- โรคทางผิวหนัง เช่น ลมพิษ กลาก เกลื้อน สะเก็ดเงิน หิด อีสุกอีใส ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ภาวะผิวแห้ง โรคผื่นระคายสัมผัส เป็นต้น
- โรคทางระบบประสาท เช่น โรคเบาหวาน โรคงูสวัด โรคเส้นประสาทอักเสบ เป็นต้น
- โรคหรือภาวะเจ็บป่วยบางชนิด เช่น โรคตับอักเสบเรื้อรัง ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ไตวายเรื้อรัง โลหิตจาง มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือการมีพยาธิบางชนิดในร่างกาย
- โรคทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ
- ระคายเคืองจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- ระคายเคืองจากภูมิแพ้ เช่น แพ้สารเคมี แพ้สารประกอบในสบู่ ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง
- ผลจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยากันชัก ยาแก้ปวดบางชนิด
- การตั้งครรภ์ อาการคันมักเกิดบริเวณหน้าท้องหรือต้นขา กรณีผู้ป่วยโรคผิวหนัง อาจส่งผลให้อาการคันแย่ลงในช่วงตั้งครรภ์
อาการคันที่ควรพบแพทย์
- อาการคันยุบยิบตามตัว ไม่มีผื่น คันทั่วทั้งร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อาการคันไม่ดีขึ้นนานกว่า 2 สัปดาห์
- คันมากจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
- พบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
การวินิจฉัยและการรักษาอาการคัน

การวินิจฉัยอาการคัน แพทย์เริ่มจากการตรวจร่างกายและซักประวัติเพื่อหาสาเหตุและสาเหตุร่วมด้านอื่นๆ ก่อน เช่น การมีผื่นแดงนูนร่วมด้วย จากนั้นอาจมีการส่งตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจภูมิแพ้ผิวหนัง หรือตรวจการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ กรณีอาการคันไม่รุนแรง สามารถบรรเทาอาการคันได้เอง ดังนี้
- กดหรือตบเบาๆ บริเวณที่มีอาการคันแทนการเกา
- ประคบเย็น บริเวณที่มีอาการคัน
- รับประทานยาแก้แพ้
- ทายาบรรเทาอาการคัน
การป้องกันอาการคัน
อาการคันอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ บางสาเหตุสามารถป้องกันได้ และบางสาเหตุเกิดจากผลกระทบของโรคและความเจ็บป่วย ซึ่งต้องพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี
สำหรับอาการคันที่ไม่ได้เกิดจากโรคหรือความเจ็บป่วยร้ายแรง อาจป้องกันได้ ดังนี้

- หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการคัน เช่น สารเคมี สบู่หรือผงซักฟอกบางชนิด
- ไม่อาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ซึ่งส่งผลให้ผิวแห้ง
- ทาครีมบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวไม่แห้งจนเกินไป อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- พยายามหลีกเลี่ยงการเกา เนื่องจากอาจทำให้หนังถลอกหรือเกิดการติดเชื้อ
- ผู้ป่วยโรคต่างๆ ควรรับประทานยาและปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำ
ภาวะคันจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) เป็นโรคผิวหนังที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ 2-5% และเด็กมากถึง 10-20% ทั่วโลก เป็นภาวะเรื้อรังในระยะยาว โดยมีลักษณะเฉพาะเริ่มจากผิวแห้ง เป็นขุย ระคายเคือง แม้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ ทั้งนี้ การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอก็ยังสามารถปกป้องผิวพรรณของเราได้เช่นกัน
อาการของภาวะคันจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ส่งผลต่อผิวหนังบนใบหน้าและร่างกายของคนทุกวัย ทั้งทารก เด็ก และผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กวัยก่อน 5 ปี และอาจคงอยู่ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
อาการคันจากภาวะผื่นภูมิแพ้ผิวหนังนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปคืออาการผิวแห้ง เป็นขุย และระคายเคือง บางรายอาจมีอาการเรื้อรังเป็นๆ หายๆ หรืออาจหายไปหลายปีแล้วกลับมาเป็นอีกได้
นอกจากนี้ อาจมีอาการแสดงอื่นๆ ได้ ดังนี้
- ผิวเป็นสะเก็ด หรือตุ่มพองขนาดเล็ก อาจติดเชื้อรอบแผล
- คันตามผิวหนัง โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
- ทารกต่ำกว่า 1 ปี มักเป็นผื่นบริเวณแก้ม แขน ขา และในบริเวณที่ใส่ผ้าอ้อม
- เด็กวัยหัดเดินและก่อนวัยเรียน ส่วนใหญ่มีผื่นขึ้นบริเวณข้อต่อกระดูก เช่น ข้อมือ ข้อศอก หัวเข่า ข้อเท้า รวมถึงอวัยวะเพศ อาจมีลักษณะแข็ง หนา หยาบ และทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
- เด็กวัยเรียน มักปรากฎผื่นหนาบริเวณข้อศอกและหัวเข่า รวมถึงเปลือกตา ใบหู และศีรษะ มักพบรอยเกา ซึ่งผื่นผิวหนังในช่วงวัยเรียนอาจหายได้เองเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
- ผู้ใหญ่ พบผื่นผิวหนังหลายรูปแบบ อาจเกิดขึ้นเฉพาะส่วนหรือทุกส่วนพร้อมกัน ส่วนใหญ่เป็นผื่นแห้ง หนา และแข็ง
สาเหตุของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
จจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากพันธุกรรมโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหืด และภูมิแพ้อากาศ โดยมีปัจจัยร่วม เช่น ภูมิต้านทานโรคต่ำ หรือภาวะร่างกายขาดโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังกักเก็บน้ำ จนเกิดผิวหนังแห้ง แดง คัน ระคายเคือง และเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในที่สุด
ทั้งนี้ อาการคันและผื่นแดงอาจถูกกระตุ้นจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ดังนี้

- สารเคมีในโลชั่นหรือสบู่
- สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา และขนสัตว์
- อากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่อากาศแห้ง
- การอาบน้ำร้อน ทำให้ผิวแห้ง คัน และระคายเคือง
- อาหารบางชนิด เช่น ไข่ ถั่วลิสง นม เป็นต้น
- ความเครียด
การป้องกันโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
- ทาครีมบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นผิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งจนเกินไป
- เลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีน้ำหอม (No Perfumed) ไม่ใส่สาร Preservative หรือมีคำว่า No Preservative/For Sensitive Skin
- เมื่อกลับจากข้างนอก ควรอาบน้ำล้างเหงื่อหรือฝุ่นออก เปลี่ยนเสื้อใหม่
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
- ใส่เสื้อผ้าที่นุ่มสบาย ไม่รัดรูปจนเกินไป
- ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ และปิดบริเวณที่เป็นผื่นด้วยผ้าพันแผล รวมถึงสวมถุงมือก่อนนอน เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการเผลอเกาขณะนอนหลับ
- หลีกเลี่ยงสารก่ออาการแพ้ต่างๆ ที่อาจทำให้อาการแย่ลง
- ผ่อนคลายความเครียด เพราะความเครียดอาจส่งผลให้อาการแย่ลง
- ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นภายในบ้าน
- หากพบอาการไม่ทุเลาลง ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับการรักษา
อาการคันสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การนอน ซึ่งการเกาเป็นเพียงวิธีบรรเทาอาการคันได้ระยะหนึ่ง แต่หากเกาอย่างรุนแรงหรือเกาเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว เกิดอาการรุนแรงแทรกซ้อน รวมถึงอาจส่งผลต่อบุคลิกภาพได้ ดังนั้น หากรู้สึกคันโดยไม่ทราบสาเหตุ และแก้ไขเบื้องต้นแล้วแต่ไม่ได้ผล ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกต้อง ไม่ควรซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด
ปรึกษาสุขภาพ : 021 752 666
ที่ตั้ง : บ้านเขาย้อย อำเภอศรีสัตตนาค
นครหลวงเวียงจันทน์ (ใกล้วัดศรีเมือง)
นัดหมายออนไลน์ ลงทะเบียนฟรี รับสิทธิพิเศษในการดูแล