หูดหงอนไก่ ติ่งเนื้อจากโรคติดต่อที่คู่รักไม่ควรมองข้าม!
หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเข้าใจว่าสามารถติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วหูดหงอนไก่สามารถติดต่อผ่านทางอื่นได้เช่นกัน ในบทความนี้เราชวนคุณมาดูกันว่าหูดหงอนไก่คืออะไร เกิดจากอะไร ติดต่อกันได้อย่างไร อาการเป็นอย่างไร รวมไปถึงแนวทางการรักษาและป้องกันมาให้ครบแล้วที่นี่
หูดหงอนไก่ คืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร
หูดหงอนไก่ (Genital warts) ถูกจัดให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) สายพันธุ์ที่ 6 และ 11 ซึ่งเชื้อไวรัสนี้สามารถติดต่อได้ผ่านทางการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง หรือเยื่อบุที่ติดเชื้อ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดปกติ ทางปากและทางทวารหนัก รวมถึงการคลอดทารกผ่านทางช่องคลอด
อาการและตำแหน่งที่สามารถพบได้ของหูดหงอนไก่
สำหรับอาการเริ่มต้นของหูดหงอนไก่ ในช่วงที่เชื้อไวรัสกำลังฟักตัวจะไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมา แต่ในช่วงประมาณ 3 สัปดาห์ จนถึง 8 เดือน เชื้อไวรัสจะเริ่มรบกวนการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัวได้ และทำให้เกิดเป็นติ่งเนื้อยื่นออกมาภายใน หรือภายนอกร่างกาย โดยอาการและลักษณะเฉพาะของหูดหงอนไก่สามารถสังเกตได้ ดังนี้

- เกิดติ่งเนื้อ หรือตุ่มเนื้อขนาดเล็ก หรือใหญ่ไม่เท่ากัน
- ติ่งเนื้อ หรือตุ่มเนื้อที่เกิดขึ้นมักเป็นสีชมพู สีแดง หรือสีน้ำตาลแดง
- ติ่งเนื้อ หรือตุ่มเนื้อมีลักษณะคล้ายกับดอกกะหล่ำ หรือหงอนไก่
- สามารถเกิดขึ้นเป็นติ่งเดียว ตุ่มเดียว หรือกระจุกรวมกันเป็นก้อนใหญ่ได้
- อาจมีอาการคัน แสบร้อน หรือเจ็บได้
- หากมีการติดเชื้ออาจมีหนองไหลออกมาจากติ่งเนื้อ หรือตุ่มเนื้อได้
- อาจมีเลือดไหลออกจากติ่งเนื้อ หรือช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ (หากเป็นหูดหงอนไก่ที่ช่องคลอด)
นอกจากนี้หูดหงอนไก่ยังสามารถแบ่งตัวได้มากขึ้นในบริเวณที่อับชื้น ร้อนชื้นได้ดี เช่น บริเวณขาหนีบ อวัยวะเพศ ใต้หนังหุ้มองคชาต หนังหุ้มอัณฑะ ช่องคลอด ปากมดลูก ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ฝีเย็บ ริมฝีปาก ในปาก หรือคอหอยได้ รวมไปถึงผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำหูดหงอนไก่จะสามารถแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนมากขึ้นได้เช่นกัน
การตรวจวินิฉัยหูดหงอนไก่
- ตรวจภายนอก แพทย์จะใช้วิธีสังเกตลักษณะเฉพาะของหูดหงอนไก่ ที่ติ่งเนื้อจะมีลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำ หรือหงอนไก่ ในบางรายที่ติ่งเนื้อไม่ชัดเจนแพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อดังกล่าว เพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาต่อไป
- ตรวจภายใน ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการบ่งชี้ว่าเป็นหูดหงอนไก่ภายในร่างกาย เช่น บริเวณช่องคลอด หรือทวารหนัก แพทย์จะทำการตรวจภายในเพิ่มเติม รวมไปถึงอาจมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เพิ่มเติมร่วมด้วย
แนวทางการรักษาโรคหูดหงอนไก่
การรักษาหูดหงอนไก่สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
- ใช้ยาทา ซึ่งมีทั้งยาทาชนิดที่สามารถทาเองที่บ้านได้และชนิดที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยแพทย์จะทำการนัดหมายให้มาป้ายยาบริเวณที่เป็นหูดหงอนไก่ทุก 1-2 สัปดาห์ โดยก่อนป้ายยาจะต้องปัสสาวะให้เรียบร้อย เพราะหลังจากป้ายยาแล้วห้ามโดนน้ำ 4-6 ชั่วโมง
- ผ่าตัด สำหรับวิธีการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับลักษณะและขนาดของหูดหงอนไก่ โดยการผ่าตัดมีด้วยกันหลายวิธี เช่น จี้ร้อนด้วยไฟฟ้า จี้เย็นด้วยไนโตรเจนเหลว ตัดด้วยใบมีด หรือเลเซอร์ เป็นต้น
การรักษาหูดหงอนไก่โดยส่วนใหญ่เป็นการบรรเทาอาการและยับยั้งไม่ให้หูดหงอนไก่ หรือติ่งเนื้อกระจายตัวเพิ่มมากขึ้น หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีก็มีโอกาสรักษาให้หายได้ และกำจัดเชื้อไวรัสออกไปได้เอง เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า 30-70% ของผู้ป่วยที่เคยเป็นหูดหงอนไก่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ ในระยะ 6 เดือนให้หลัง หลังจากการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งสามารถเกิดได้จากการติดเชื้อใหม่ หรือรอยโรคเก่าที่กลับมาอีกครั้งได้
ถึงแม้ว่าหูดหงอนไก่จะเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หรือการใช้ของร่วมกัน แต่โรคนี้ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยโดยการสวมถุงยางอนามัย และการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิด 4 และ 9 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ถึง 90% โดยวัคซีนนี้สามารถฉีดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ป้องกันได้ตั้งแต่หูดหงอนไก่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก รวมถึงมะเร็งในช่องปากและลำคอได้ด้วย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม
ปรึกษาสุขภาพ : 021 752 666
ที่ตั้ง : บ้านเขาย้อย อำเภอศรีสัตตนาค
นครหลวงเวียงจันทน์ (ใกล้วัดศรีเมือง)
นัดหมายออนไลน์ ลงทะเบียนฟรี รับสิทธิพิเศษในการดูแล