เมื่อแพทย์ตรวจพบว่า คนไข้มีปัญหาในการขับถ่ายเพราะมีความผิดปกติของทวารหนัก ซึ่งความผิดปกตินี้อาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้จะมาด้วยอาการรูทวารตีบแคบและการกลั้นอุจจาระลำบากที่เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักผิดปกติ หรือกล้ามเนื้อหูรูดถูกตัดขาดออกจากกัน หากเป็นดังนี้ ก็จะต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เรียกว่า Anoplasty
เหตุใดทวารหนักจึงเกิดความผิดปกติหรือตีบแคบลง
ความผิดปกติของทวารหนักที่เกิดขึ้นภายหลังนั้น สาเหตุหนึ่งที่พบบ่อย คือการรักษาริดสีดวงทวารที่ไม่ถูกวิธี หรือได้รับการรักษาจากแพทย์ที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยตรง
เพราะในบางครั้งผู้ป่วยมีความกังวลหรืออายที่จะไปพบแพทย์ในโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยมีเวลาน้อยและหลงเชื่อคำโฆษณา หรือมีความกังวลกับการจะต้องได้รับการผ่าตัด จึงไปรับการรักษาในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจรักษาด้วยวิธีการฉีดยาหรือสารเคมีเพื่อทำลายหัวริดสีดวงทวารจนทำให้เกิดแผล ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้หัวริดสีดวงรวมไปถึงเนื้อเยื่อปกติที่อยู่รอบๆ ริดสีดวงเน่าไปพร้อมๆ กัน จนเกิดเป็นแผลเนื้อตายขนาดใหญ่
โดยหลังจากการเน่าหรือการอักเสบเริ่มดีขึ้น จะเป็นขั้นตอนที่แผลจะเริ่มหาย ซึ่งการหายของแผลนี้จะทำให้เกิดการหดรั้งของเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณทวารหนัก รูทวารหนักจึงตีบแคบลง และความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อรอบทวารหนักที่เป็นคุณสมบัติอันจำเป็นต่อการขับถ่ายนั้นหายไป เมื่อรูทวารไม่สามารถยืดขยายได้ดีในขณะที่อุจจาระ จึงเกิดปัญหาตามมา
นอกจากนี้ อาการรูทวารตีบแคบอาจเกิดจากการได้รับการรักษาโดยการตัดหัวริดสีดวงที่ไม่เหมาะสม เช่น การตัดริดสีดวงแต่ละตำแหน่งกว้างเกินไป หรือตัดริดสีดวงจำนวนมากเกินไป หลังจากการเย็บแล้วจึงพบว่า มีการตีบแคบของทวารหนักและความยืดหยุ่นของทวารหนักหายไป จึงเป็นเหตุให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานในการถ่ายอุจจาระ ในบางรายแม้กระทั่งปลายนิ้วก้อยก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปในรูทวารหนักได้ ผู้ป่วยจึงแก้ปัญหาด้วยการทานยาระบายเพื่อให้ถ่ายเหลวทุกวัน จึงมีความทุกข์ทรมานทุกครั้งที่ถ่ายอุจจาระ

การรักษาทวารหนักที่ตีบแคบ
วิธีการรักษาการตีบแคบของทวารหนักนั้น ถ้าแพทย์ประเมินแล้วว่า อาการไม่มากและรูทวารไม่ตีบแคบมากนัก อาจรักษาด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยากก่อน เช่น การขยายรูทวารหนักด้วยนิ้วหรืออุปกรณ์ขยาย ไม่ว่าจะทำในห้องตรวจ หรือทำในห้องผ่าตัดโดยใช้ยาสลบ หรือการฉีดยาชาทางไขสันหลัง รวมถึงการตัดเนื้อเยื่อบางส่วนที่เป็นพังผืดที่ขัดขวางการขับถ่ายออก
ในกรณีที่มีอาการมาก เช่น รูทวารหนักตีบแคบมาก และแพทย์ประเมินแล้วว่าไม่สามารถรับการรักษาด้วยวิธีขยายรูทวารโดยใช้เครื่องมือถ่างขยายได้ แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดโดยวิธี Anoplasty ซึ่งเป็นการนำเนื้อผิวหนังที่อยู่บริเวณผิวหนังนอกรูทวารหนัก บริเวณที่เป็นเนื้อผิวหนังที่ยังปกติและมีความยืดหยุ่นดีมาเป็นรูทวารหนักแทน การผ่าตัดด้วยวิธีนี้เป็นวิธีทำให้ผู้ป่วยกลับมาถ่ายอุจจาระเป็นก้อนได้ตามปกติ ลดความเจ็บปวดทรมานในการขับถ่าย โดยผู้ป่วยสามารถกลั้นอุจจาระได้เป็นปกติเหมือนเดิม
การรักษาด้วยวิธี Anoplasty นี้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 2-3 วัน ส่วนการดูแลแผลนั้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดสามารถอาบน้ำ ล้างก้น ถูสบู่ได้ตามปกติหนึ่งวันหลังการผ่าตัด และผู้ป่วยสามารถไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ภายใน 5-7 วัน โดยพบภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดน้อยมาก และแผลผ่าตัดมักจะหายสนิทใน 6 สัปดาห์
มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับทวารหนักหรือการขับถ่ายควรรีบพบแพทย์
- ผู้ป่วยที่มีอาการถ่ายเป็นเลือดไม่จำเป็นต้องเป็นริดสีดวงเสมอไป เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น แผลฉีกขาดที่ขอบทวาร ไม่ว่าจะเป็นชนิดเฉียบพลันหรือเรื้อรัง การอักเสบของทวารหนัก รวมถึงเนื้องอกหรือมะเร็งทวารหนักและลำไส้ใหญ่ได้ ดังนั้น ถ้าพบว่ามีอาการถ่ายเป็นเลือด หรือมีเลือดปนมากับอุจจาระ ควรรีบมาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และรับการรักษาที่เหมาะสมกับโรคที่เป็น
- การรักษาริดสีดวงในปัจจุบัน ไม่จำเป็นว่าผู้ป่วยทุกรายต้องได้รับการผ่าตัด เพราะในบางรายสามารถหายได้จากการปรับพฤติกรรมการรับประทานและการขับถ่ายร่วมกับการใช้ยา นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ อีก เช่น การฉีดยารักษาริดสีดวงทวาร การใช้ยางรัดหัวริดสีดวงทวาร ส่วนการผ่าตัดมักเป็นทางเลือกสุดท้ายในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ดีขึ้น
- ในผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดริดสิดวงทวาร ปัจจุบันมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากและการดูแลแผลง่ายกว่าที่ผ่านมามาก เช่น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรับการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง เพียงแต่ได้ยาฉีดให้หลับร่วมกับฉีดยาชาเฉพาะที่ และโดยส่วนใหญ่การผ่าตัดจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง

นอกจากนี้ วิธีการผ่าตัดอาจเป็นชนิดไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ หรือในบางรายอาจเหมาะสมกับการใช้วิธีเลเซอร์ ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดริดสีดวงทวารที่ได้รับยาฉีดหลับร่วมกับฉีดยาชาเฉพาะที่ เมื่อผ่าตัดเสร็จก็สามารถลุกนั่งรับประทานอาหารได้ทันทีที่ตื่นดี ทั้งยังสามารถขับถ่ายทางทวารหนักได้ตามปกติ นอกจากนี้ผู้ป่วยเกือบทุกรายไม่จำเป็นต้องแช่ก้นในน้ำอุ่นเหมือนสมัยก่อน สามารถอาบน้ำถูสบู่ได้ตามปกติ และการเกิดภาวะแทรกซ้อนก็พบน้อยมาก
อย่างก็ตาม ภายหลังการรักษาริดสีดวงทวาร ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็มีโอการกลับเป็นซ้ำได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการนั่งบนโถชักโครกเป็นเวลานานๆ หรือบ่อยๆ ไม่ว่าจะท้องผูกหรือท้องเสีย ทั้งไม่ควรนั่งเล่นโทรศัพท์ หรืออ่านหนังสือขณะขับถ่าย เพราะจำทำให้ต้องนั่งขับถ่ายเป็นเวลานาน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารได้
☎️ ปรึกษาสุขภาพ : 021 752 666
📍 ที่ตั้ง : บ้านเขาย้อย อำเภอศรีสัตตนาค
นครหลวงเวียงจันทน์ (ใกล้วัดศรีเมือง)
💡 นัดหมายออนไลน์ ลงทะเบียนฟรี รับสิทธิพิเศษในการดูแล